วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สุรปค้นคว้าจากวารสาร
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สรุปค้นคว้าจากวารสาร
: หน่วยงานที่ทำหน้าที่วางข้อกำหนดมาตรฐาน ทางเทคนิคให้กับมาตรฐานโครงข่าย 3G ค่าย WCDA
- - -> CSD (Circuit Switched Data)
: การเชื่อมต่อภายในโครงข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อรับรองการรับ ส่งข้อมูล หรือ สัญญาฯเสียงพูด โดยต้องมีการจองช่องสัญญาณหรือวงจรมื่อสารไว้ตายตัวสำหรับการสื่อสารของแต่ละบุคคลและปลดหรือยกเลิกการจองเมื่อการสื่อสารสิ้นสุดลง
- - -> FWA (Fixed Wireless Access)
: มาตรฐานการสื่อสารทางวิทยุซึ่งอาจหมายถึงการนำโครงข่าย 3G มาประยุกต์ใช้ให้บริการกับเครื่องลูกข่ายที่อยู่ประจำวันที่ เป็นทางเลือกแทนการสื่อสารโดยใช้สายนำสัญญาณ
- - -> Adhoc Network
: โครงข่ายสื่อสารไร้สายชนิดที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยระบบควบคุมส่วนกลางแบบรวมศูนย์ ในการสื่อสารลักษณะนี้อุปกรณ์สื่อสารสามารถติดต่อกันเองได้โดยตรง
• ☺ • บ ร ร ณ า นุ ก ร ม • ☺ •
สำนักงานคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ. "Glossary", เทเลคอมไดเจสท์.10,16(2552) : 140
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
Lab TCP/IP

การเพิ่ม /all : จะเป็นการแสดงรายละเอียดทั้งหมด
ผลที่ได้ ------>

โปรแกรม ping
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบการเชื่อมต่อกับเครือข่ายระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่อยู่ในเครือข่าย โดยคำสั่ง ping จะส่งข้อมูลที่เป็นแพ็คเกจ 4 ชุดๆละ 32 Byte ไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางที่ต้องการตรวจสอบ หากมีการตอบรับจากคอมพิวเตอร์เป้าหมายก็แสดงว่ามการเชื่อมต่อเครือข่ายยังเป็นปกติ แต่หากไม่มีการตอบรับกลับมาก็แสดงว่าคอมพิวเตอร์ปลายทางหรือเครือข่ายอยู่ในช่วงหนาแน่น ดังนั้นจะเห็นว่าคำสั่ง ping มีประโยชน์อย่างมากในการตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี
1.คลิกปุ่ม Start > Run > พิมพ์ cmd เพื่อเรียกใช้งาน Command Prompt
2.เมื่อปรากฎหน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์คำสั่ง ping ตามด้วยหมายเลข IP Address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการจะเข้าไปตรวจสอบลงไป จากนั้นกดปุ่ม Enter
3.จะปรากฏผลออกมา
* และเมื่อเพิ่ม -t ในคำสั่ง แล้วหากมีการตอบกลับจากคอมพิวเตอร์ปลายทาง จะปรากฏคำสั่งเหมือนในกรอบสีแดง แสดงว่าคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 เครื่องสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตามปกติ
ผลที่ได้ ------->
-พิมพ์ arp -a
เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบหาว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดใช้ MAC addressใดบ้าง(MAC addressเป็นค่าของตัวเลขฐานสิบหกจำนวนหนึ่ง ซึ่งถูกกำหนดใช้กับNetwork cardทุกใบที่ได้ผลิตออกมากจากบริษัทต่างๆซึ่งจะไม่ซ้ำกัน เช่น 00:01:44:34:12:55)
ผลที่ได้ ------>

โปรแกรม netstart
- พิมพ์ netstat -r
เป็นคำสั่งพื้นฐานของ window ที่ใช้แสดงการเชื่อมต่อจากที่ต่างๆออกมาทั้งหมดออกทั้งหมดออกมาไม่ว่าจะมาจาก protocal TCP,UDP,ICMP และอื่นๆรวมไปถึงหมายเลข Port และ IPของผู้ติดต่อออกมาให้เราดูเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตรวจสอบการเชื่อมต่อของเครื่องเรา (ที่มา :http://www.viruscom2.com/tip-computer/netstat.html)
ผลที่ได้ ---->

โปรแกรม tracert
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบว่าจากเครื่องเราไปถึงเครื่องเป้าหมายมันผ่านเราท์เตอร์ตัวไหนบ้าง นั่นก็คือ การเช็คเส้นทาง โดยใช้คุณสมบัติของ Time To Live (TTL) ในการทำงาน
1.คลิกปุ่ม Start > Run > พิมพ์ cmd เพื่อเรียกใช้งาน Command Prompt
2.เมื่อปรากฎหน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์คำสั่ง tracert แล้วตามด้วยเว็บไซด์ที่ต้องการแล้วกด Enter
3.จะปรากฏผลออกมา
ผลที่ได้ ----->
ระบบเครือข่ายและการสื่อสาร
- การสื่อสารข้อมูล คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสองอุปกรรณ์ผ่านตัวกลางข้อมูลระหว่างสองอุปกรณ์ผ่านตัวกลางข้อมูลระหว่าง 2อุปกรณ์ผ่านตัวกลางส่งข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสาร(Transmission Medium) (โอภาส เอื่ยมสิริวงศ์.)
- การสื่อสารข้อมูล คือ การรับ-ส่ง โอน ย้าย หรือ แลกเปลี่ยน ข้อมูลและสารสนเทศระหว่างอุปกรณ์สื่อสารต่างๆผ่านสื่อนำข้อมูล (ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล.)
สรุป การสื่อสารข้อมูลเป็นการเคลื่อนย้ายข้อมูลจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยผ่านช่องทางการสื่อสาร (Communications link)
วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
Networking Animations
2.Hub คอมพิวเตอร์ที่เป็นตัวส่งข้อมูลจะระบุแอดแดรสของเครื่องที่จะรับข้อมูลแล้วส่งผ่านHubที่จะเป็นตัวกระจายข้อมูล Hub จะส่งข้อมูลไปยังผู้รับคนอื่นๆด้วยโดยที่แอดเดรสตรงกับเครื่องไหนก็จะรับข้อมูลแล้วจัดเก็บส่วนเครื่องที่แอดเดรสไม่ตรงกับเครื่องก็จะdeleteทิ้ง
3.Swicth จะเป็นการอาศัยทั้งAddress และ Port Number ในการส่งข้อมูลและจะส่งเฉพาะเครื่องที่มีAddress และ Port Number ที่ตรงเท่านั้น
4.Swicth Network With No Server เมื่อส่งข้อมูลให้แก่ User อืนๆแล้วเมื่อปิดเครื่องและเปิดมาอีกรอบจะไม่สามรถเปิดเอกสารนั้นได้
5.Swicth Network With Server เมื่อส่งข้อมูลให้แก่ User โดยผ่าน Server แล้ว Serverก็จะส่งไปให้ผู้รับแต่ละเครื่องตามAddress และเมื่อเราเลิกใช้แล้ว และเรากลับมาใช้อีกครั้ง Serverก็จะยังส่งข้อมูลให้เราและเปิดได้
6.Adding switch เป็นการส่งข้อมูลในหลายๆด้านโดยใช้switchและserverหลายตัวในการส่ง ทัให้การทไงนเกิดความช้าในการส่งข้อมูล
7.ARP คือการอาศัยMAC Address และIP Address ในการส่งข้อมูล โดยอาศัย Router ในการหา IP และ MAC
8.ARP with Multiple Networks จะใช้ Routerในการส่งข้อมูลข้ามLAN ระหว่างLAN1และLAN2โดยผ่าน Router
9.DHCP เป็นการส่งข้อมูลโดยคอมพิวเตอร์ที่ส่งจตะส่งไปให้กะuserคนอื่นๆและยังส่งไปให้กับ DHCP server โดยผ่าน Relay agent ส่งไปยัง DHCP server แล้วDHCP serverจะค้นหา IP Address แล้วส่งกลับคืนยังเครื่องผู้ส่ง
10.Router and Forwording ส่งข้อมูลโดยอารัยRouterหลายๆตัว โดยRouterจะมีIP ของเครื่องต่างในช่วงระยะที่จำกัดไว้ แล้วหาIP ระหว่างนั้นแล้วก็ส่งไปตามIPนั้นๆเป็นขั้นลำดับ
11.IP Subnets การส่งข้อมูล โดยเครื่องส่งจะส่งไปให้ยังเครื่องที่ต้องการรับโดยผ่านswicthแล้วเครื่องที่ได้รับจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับอีกกลุ่มหนึ่งโดยผ่านRouterไปยังเครื่องที่ต้องการส่ง
12.TCP Connections ส่งข้อมูลโดยเครื่องที่ส่งจะระบุ TCP ที่ชื่อว่าSYNพร้อมIPไปยังเครื่องServer โดยผ่านRouterต่างๆ แล้วเมื่อserverได้รับก็จะส่งTCPที่ชื่อว่าSYN+ACK พร้อมIPกลับไปยังเครื่องที่ส่งมาและเครื่องนั้นจะส่งTCP ที่ชื่อว่าACKกลับไปยังserver
13.TCP Multiplexingเครื่องที่ต้องการส่งจะต้องระบุ Destination Port(Http) และ Sort Port และต้องระบุDestination IP และ Source IP ใน TCP ในกรณีที่เป็นftp://ให้ระบุ Destination Port (ftp)และSort Port และ Destination IP และSource IPเช่นกัน แล้วจะส่งไปยังserver แล้วserver จะตรวจสอบ Http หรือ ftpแล้วก็จะส่งกลับ
14.TCP Buffering and Sequencingการส่งข้อมูลทีละน้อยโดยอาศัย Sequencing ในการส่งและรับจนกว่าจะครบตามความไวของInternet
15.User Datagram Protocol (UDP) จะต้องระบุ Distination Port(tftp)และsort port(tftp client)ในUDP Header และใส่Distination Port และSort Port ของVioce over IP ด้วยในการส่ง และทำการส่งโดยผ่านRouterหลายๆตัวและserverจะตรวจสอบ และเครื่องที่ส่งจะส่งเรื่อยๆเมื่อserverทำหยุดการทำงานข้อมูลที่ส่งไปก็จะถูกลบทิ้งและไม่สามารถจัดเก็บได้
16.IP Fragmentation เมื่อส่งจะระบุ Ident , Flag,offset โดยจะส่งไปทีละส่วน ไปยังเครื่องserverโดยMTU ต้องอยู่ระหว่าง 576 - 1500 byteนอกเหนือจากนี้จะถูกลบทิ้ง
17.Swicth Congesionแล้วจะส่งไปเป็นลำดับและระยะห่างที่เท่ากันโดยอาศัยBufferเป็นตัวแบ่งในกรณีที่ข้อมูลที่ต้องการส่งเกินBufferข้อมูลก็จะถูกทำลายทันที
18.TCP Flow Control0tใช้Bufferในการส่งโดยมีความไวระหว่าง2000 byteในการส่งและต้องส่งทีละไม่เกิน 2000 byte
19.Internet Access เมื่อผู้ใช้ใช้Internet และทำงานหลายๆอย่างพร้อมๆกัน และเมื่อเราใช้Internetในการเข้าWebsite เครื่องก็จะส่งไปยังServerของwebนั้นโดยผ่านRouterหลายตัวแล้วserverนั้นจะส่งสัญญาณกลับมายังเครื่องและจะปรากฏปัญหา หรือหน้าเว็บ
20.Email Protocols จะต้องระบุ E-mail Address ของผู้รับในการส่ง แล้วจะส่งไปยังserverแล้วserverจะส่งไปให้ผู้รับในเวลาต่อไป
21.Wireless Network and Multiple access with collision avoidance เป็นการทำงานแบบเป็นกลุ่มๆในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
22.Virtual Private Networkเป็นการทำงานบนเครือข่ายสาธารณะ จะมีการส่งข้อมูลรูปแบบแพ็กเก็ตมาที่เครื่อข่ายInternet โดยต้องระบุรหัสข้อมูลก่อนส่ง เพื่อความปลอดภัย โดยเข้าไปในTunnelingเพื่อป้องกันการบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถอ่านข้อมูลได้ มีเพียงผู้รับเท่านั้นที่สามารถอ่านและนำไปใช้ได้
23.Public Key Encryption เป็นการเข้ารหัสข้อมูลโดยมีรหัสสองรหัสคือ Public Key และ Private Key สองรหัสจะต้องคู่กันเสมอ การเข้าข้อมูล จะนำข้อมูลดิบมาเข้ารหัสโดยใช้Public Key เป็นรหัสลับมาถอดข้อมูลและผู้รับจะใช้Private Key ถอดรหัส
24.Firewalls ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่องค์กรต่างๆมีไว้เพื่อป้องกันเครื่อข้ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรจากอันตรายที่มาจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายนอก จะให้เฉพาะข้อมูลที่มีลักษณะที่กำหนดไว้ที่จะสามารถเข้าออกระบบเครือข่ายได้
25.Stop and wait ARQ ผู้ส่งจะส่งข้อมูลชุดแรกไปแล้วรอผลถ้าผู้รับได้รับข้อมูลแล้วไม่ผิดพลาดจะตอบว่าACKพอได้รับคำตอบแล้วว่าถูกต้องก็จะส่งข้อมูลตัวต่อไป แต่ถ้าเจอข้อมูลที่ผิดพลาดก็จะตอบว่าACKและผู้ส่งก็ต้องส่งข้อมูลชุดเดิมไปใหม่
26.Go-Back-N ARQ จะส่งข้อมูลเป็นสุด ชุดละสามแล้วRouterจะส่งACKกลับมาแล้วให้ผู้ส่งแล้วผู้ส่งจะส่งข้อมูลชุดต่อไป เมื่อเกินTimeout ข้อมูลที่ส่งไปจะถูกทำลายเมื่อตัวแรกส่งไม่ได้ก็จะถูกทำลายทั้งชุดRouterจะแจ้งผลแล้วผู้รับก็จะส่งข้อมูลมาใหม่
27.Selective Repeat ARQ เป็นการส่งที่ละชุดโดยแต่ละชุดมี3frameโดยแต่ละframeก็จะมีเวลาของแต่ละframe ทั้งสามframeจึงไม่เท่ากัน และมีเวลาTimeoutที่ไท่เท่ากัน โดยเมื่อส่งframeแรกก็ไม่ต้องรอACKจากRouterที่ส่งกลับมาก็สามารถส่งfarmeที่สองได้เลย แต่เมื่อframeใดส่งไม่ทันเวลาหรือ Timeoutก็จะถูกทำลาย
28.The OSI Model เป็นการสื่อสารระหว่าง 2ระบบ ระบบจะเปิดการติดต่อสื่อสารในเค้าโรงสำหรับออกแบบระบบเครือข่าย จะอนะญาตให้มื่อสารข้ามุกรูปแบบของระบบคอมพิวเตอร์แยกเป็น7ชั้นแต่เกี่ยวข้องกัo
29.Peer-to-peer(P2P) Computer Network เป็นเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายComputer P2P ทุกpeers เท่ากับเครื่องใช้คอมพิวเตอร์ในแต่ละหน้าที่ พร้อมกันเป็นทั้ง ลูกค้าและเซริฟเวอร์
30.Ad-Hoc Network เป็นเครือข่ายไร้สายที่ไม่ต้องการจุดเชื่อมในการจัดการ การสื่อสารระหว่าง คอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ สามารถส่งข้อมูลระหว่างคู่คอมพิวเตอร์อื่นๆคือ สามารถทำเหมือนRouterได้
