วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สุรปค้นคว้าจากวารสาร



lllllllll [ ซิ ส โ ก้ แ น ะ นำ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ] lllllllll


บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์(ประเทศไทย)จำกัด นำผลิตภัณฑ์เราท์เตอร์ยุคใหม่รุ่นที่2 หรือ IRS G2 ที่มีสมรรถนะเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ Cisco ISR รุ่นก่อนหน้าถึง 5เท่า ช่วยให้องค์กรธุรกิจที่สำนักงานสาขาได้ตามความต้องการ เช่น วีดิโอและแอพพลิเคชั่นที่รองรับการทำงานร่วมกันซึ่งนับเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมเครือข่ายไร้พรหมแดน(Bordless Network)

Cisco 3900 Series Integrated Services Router เป็นผลิตภัณฑ์หลักหลักในตระกูล ISR G2 โดยเราท์เตอร์รุ่นนี้มีความสามารถพร้อมใช้งานสูง ปกป้องเงินลงทุนในระยะยาว เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและรองรับการขยายได้อย่างยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลรักษาระบบและเพิ่มความคล่องตัวให้กับเครือข่ายด้วยการผนวกรวมบริการด้านการรักษาความปลอดภัย ระบบแลนสวิตซ์ประสิทธิภาพของ WAN และบริการแอพพลิเคชั่น


บ ร ร ณ า นุ ก ร ม


" ซิสโก้แนะนำผลิตภัณฑ์", ไมโครคอมพิวเตอร์ . 28,295(2553) : 175

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สรุปค้นคว้าจากวารสาร

.+*+.+*+.+*+..Wireless Communication..+*+.+*+.+*+.
- - -> 3GPP (Thrid Generation Partnership Project)
: หน่วยงานที่ทำหน้าที่วางข้อกำหนดมาตรฐาน ทางเทคนิคให้กับมาตรฐานโครงข่าย 3G ค่าย WCDA


- - -> CSD (Circuit Switched Data)
: การเชื่อมต่อภายในโครงข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อรับรองการรับ ส่งข้อมูล หรือ สัญญาฯเสียงพูด โดยต้องมีการจองช่องสัญญาณหรือวงจรมื่อสารไว้ตายตัวสำหรับการสื่อสารของแต่ละบุคคลและปลดหรือยกเลิกการจองเมื่อการสื่อสารสิ้นสุดลง



- - -> FWA (Fixed Wireless Access)

: มาตรฐานการสื่อสารทางวิทยุซึ่งอาจหมายถึงการนำโครงข่าย 3G มาประยุกต์ใช้ให้บริการกับเครื่องลูกข่ายที่อยู่ประจำวันที่ เป็นทางเลือกแทนการสื่อสารโดยใช้สายนำสัญญาณ



- - -> Adhoc Network

: โครงข่ายสื่อสารไร้สายชนิดที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยระบบควบคุมส่วนกลางแบบรวมศูนย์ ในการสื่อสารลักษณะนี้อุปกรณ์สื่อสารสามารถติดต่อกันเองได้โดยตรง





• ☺ • บ ร ร ณ า นุ ก ร ม • ☺ •

สำนักงานคณะกรรมการโทรคมนาคมแห่งชาติ. "Glossary", เทเลคอมไดเจสท์.10,16(2552) : 140




วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Lab TCP/IP

. . .โปรแกรมคำสั่งใน cmd. . .



คำสั่ง ipconfig
เป็นคำสั่งที่ใช้สสำหรับเรียกดูหมายเลข IP Address ของเครื่องที่ท่านใช้งานอยู่ ซึ่งถ้าหากท่านไม่ทราบว่าหมายเลข IP Address ของเครื่องที่ท่านใช้งานอยู่นั้นเป็นหมายเลขอะไรหรือมีรายละเอียดอะไรที่เกี่ยวข้องกับหมายเลข IP Address บ้าง ก็สามารถใช้คำสั่งนี้เรียกดูผ่านหน้าต่าง Command Prompt ได้ โดยเข้าไปที่


1. เลื่อน Cursor Mouse ไปที่ Icons Start แล้วคลิกที่ Run
2. พิมพ์คำสั่ง cmd ในช่องแล้วกดปุ่ม OK
3. พิมพ์ ipconfig แล้วกด Enter
ผลที่ได้ ----->
* เมื่อเพิ่มคำสั่งเป็น ipconfig /all

การเพิ่ม /all : จะเป็นการแสดงรายละเอียดทั้งหมด

ผลที่ได้ ------>

โปรแกรม ping
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบการเชื่อมต่อกับเครือข่ายระหว่างคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องที่อยู่ในเครือข่าย โดยคำสั่ง ping จะส่งข้อมูลที่เป็นแพ็คเกจ 4 ชุดๆละ 32 Byte ไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางที่ต้องการตรวจสอบ หากมีการตอบรับจากคอมพิวเตอร์เป้าหมายก็แสดงว่ามการเชื่อมต่อเครือข่ายยังเป็นปกติ แต่หากไม่มีการตอบรับกลับมาก็แสดงว่าคอมพิวเตอร์ปลายทางหรือเครือข่ายอยู่ในช่วงหนาแน่น ดังนั้นจะเห็นว่าคำสั่ง ping มีประโยชน์อย่างมากในการตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อเครือข่ายเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

1.คลิกปุ่ม Start > Run > พิมพ์ cmd เพื่อเรียกใช้งาน Command Prompt

2.เมื่อปรากฎหน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์คำสั่ง ping ตามด้วยหมายเลข IP Address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการจะเข้าไปตรวจสอบลงไป จากนั้นกดปุ่ม Enter

3.จะปรากฏผลออกมา

* และเมื่อเพิ่ม -t ในคำสั่ง แล้วหากมีการตอบกลับจากคอมพิวเตอร์ปลายทาง จะปรากฏคำสั่งเหมือนในกรอบสีแดง แสดงว่าคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 เครื่องสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตามปกติ

ผลที่ได้ ------->

โปรแกรม arp

-พิมพ์ arp -a

เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบหาว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดใช้ MAC addressใดบ้าง
(
MAC addressเป็นค่าของตัวเลขฐานสิบหกจำนวนหนึ่ง ซึ่งถูกกำหนดใช้กับNetwork cardทุกใบที่ได้ผลิตออกมากจากบริษัทต่างๆซึ่งจะไม่ซ้ำกัน เช่น 00:01:44:34:12:55)



ผลที่ได้ ------>

โปรแกรม netstart

- พิมพ์ netstat -r
เป็นคำสั่งพื้นฐานของ window ที่ใช้แสดงการเชื่อมต่อจากที่ต่างๆออกมาทั้งหมดออกทั้งหมดออกมาไม่ว่าจะมาจาก protocal TCP,UDP,ICMP และอื่นๆรวมไปถึงหมายเลข Port และ IPของผู้ติดต่อออกมาให้เราดูเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตรวจสอบการเชื่อมต่อของเครื่องเรา (ที่มา :http://www.viruscom2.com/tip-computer/netstat.html)

ผลที่ได้ ---->

โปรแกรม tracert

เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบว่าจากเครื่องเราไปถึงเครื่องเป้าหมายมันผ่านเราท์เตอร์ตัวไหนบ้าง นั่นก็คือ การเช็คเส้นทาง โดยใช้คุณสมบัติของ Time To Live (TTL) ในการทำงาน

1.คลิกปุ่ม Start > Run > พิมพ์ cmd เพื่อเรียกใช้งาน Command Prompt
2.เมื่อปรากฎหน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์คำสั่ง tracert แล้วตามด้วยเว็บไซด์ที่ต้องการแล้วกด Enter

3.จะปรากฏผลออกมา


ผลที่ได้ ----->

ระบบเครือข่ายและการสื่อสาร

ความหมายของการสื่อสารข้อมูล
- การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) หมายถึง การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อจะทำการกระจายหรือส่งข้อมูลนั้นออกไปยังที่ต่างๆที่อยู่ห่างกันออกไปโดยข้อมูลที่จะส่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของข้อความ(Text) ข้อมูลเสียง รูปแบบ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ต้องถูกนำมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่จะสามารถส่งไปได้ตามช่องทางการสื่อสารต่างๆ (งามนิจ อาจอินทร์.)

- การสื่อสารข้อมูล คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสองอุปกรรณ์ผ่านตัวกลางข้อมูลระหว่างสองอุปกรณ์ผ่านตัวกลางข้อมูลระหว่าง 2อุปกรณ์ผ่านตัวกลางส่งข้อมูลที่ใช้ในการสื่อสาร(Transmission Medium) (โอภาส เอื่ยมสิริวงศ์.)

- การสื่อสารข้อมูล
คือ การรับ-ส่ง โอน ย้าย หรือ แลกเปลี่ยน ข้อมูลและสารสนเทศระหว่างอุปกรณ์สื่อสารต่างๆผ่านสื่อนำข้อมูล (ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล.)

สรุป การสื่อสารข้อมูลเป็นการเคลื่อนย้ายข้อมูลจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยผ่านช่องทางการสื่อสาร (Communications link)


ความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ การเกิดจากการสื่อสารข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป โดยใช้วิธีการสื่อสารข้อมูลทั่วไปในการเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยในการเชื่อม ต่อนั้น ประสิทธิภาพของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบคือ
* จำนวนของคอมพิวเตอร์ภายในเครือข่าย
* สื่อนำข้อมูล (Transmission Medium)
* เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ (Hardware)
* โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล (Software)
(ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล.)
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ กลุ่มของอุปกรณ์เตอร์ที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ทรัพยากรต่างๆร่วมกันภายในเครือข่ายได้
(โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์)
- เครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Cometwork) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ตัง้แต่ 2 เครือข่ายขึ้นไป เพื่อแลกเปลี่ยนสารสนเทศและใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ร่วมกัน โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้ในหลายๆรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้(Timothy J.)
สรุป เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือ การเชื่อมต่อของคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปโดยใช้วิธีการสื่อสารข้อมูลทั่วไปในการเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนสารสนเทศและใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ร่วมกัน
องค์ประกอบของการสื่อสาร
1.ผู้ส่งข้อมูล(Sender) คือสิ่งที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปยังจุดหมายที่ต้องการ
2.ผู้รับ(Receiver) คือสิ่งที่ทำหน้าที่รับข้อมูลที่ถูกส่งมาให้
3.ข้อมูล(Data) คือข้อมูลที่ผู้ส่งไปยังผู้รับข้อมูล ข้อมูลอาจอยู่ในรูปของข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหว และอื่นๆ
4.สื่อนำข้อมูล(Medium) คือสิ่งที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขนถ่ายข้อมูลจากผู้ส่งข้อมูลไปยังผู้รับข้อมูล
5.โปรโตคอล(Protocal) คือกฎหรือ วิธีที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อการสื่อสารข้อมูล ซึ่งผู้ส่งข้อมูลในรูปแบบตามวิธีการสื่อสารที่ตกลงไว้กับผู้รับข้อมูลจึงจะสามารถสื่อสารข้อมูลกันได้
โปรโตคอล (Protocal)
โปรโตคอล คือ การรับและส่งข้อมูลให้ประสบความสำเร็จอุปกรณ์และส่งข้อมูลจะต้องปฏิบัติตามข้อมูล ข้อตกลงของการขนส่งข้อมูล
Topology
Topology คือการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อต่อกันเพื่อประโยชน์ของการสื่อสารนั้น สามารถกระทำได้หลายรูปแบบ
ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เช่น
- แบบบัส(Bus Topology)
- แบบวงแหวน(Ring Topology)
- แบบดาว(Star Topology)
- แบบเมช(Mesh Topology)
- แบบผสม(Hybird Topology)

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Networking Animations

1.No Network เมื่อไม่มีระบบnetworkก็จะต้องส่งข้อมูลโดยการใช้อุปกรณ์ช่วยในการกระจายข้อมูล เช่น แผ่นดิสก์ หรือ หน่วยความจำสำรอง

2.Hub คอมพิวเตอร์ที่เป็นตัวส่งข้อมูลจะระบุแอดแดรสของเครื่องที่จะรับข้อมูลแล้วส่งผ่านHubที่จะเป็นตัวกระจายข้อมูล Hub จะส่งข้อมูลไปยังผู้รับคนอื่นๆด้วยโดยที่แอดเดรสตรงกับเครื่องไหนก็จะรับข้อมูลแล้วจัดเก็บส่วนเครื่องที่แอดเดรสไม่ตรงกับเครื่องก็จะdeleteทิ้ง

3.Swicth จะเป็นการอาศัยทั้งAddress และ Port Number ในการส่งข้อมูลและจะส่งเฉพาะเครื่องที่มีAddress และ Port Number ที่ตรงเท่านั้น

4.Swicth Network With No Server เมื่อส่งข้อมูลให้แก่ User อืนๆแล้วเมื่อปิดเครื่องและเปิดมาอีกรอบจะไม่สามรถเปิดเอกสารนั้นได้

5.Swicth Network With Server เมื่อส่งข้อมูลให้แก่ User โดยผ่าน Server แล้ว Serverก็จะส่งไปให้ผู้รับแต่ละเครื่องตามAddress และเมื่อเราเลิกใช้แล้ว และเรากลับมาใช้อีกครั้ง Serverก็จะยังส่งข้อมูลให้เราและเปิดได้

6.Adding switch เป็นการส่งข้อมูลในหลายๆด้านโดยใช้switchและserverหลายตัวในการส่ง ทัให้การทไงนเกิดความช้าในการส่งข้อมูล

7.ARP คือการอาศัยMAC Address และIP Address ในการส่งข้อมูล โดยอาศัย Router ในการหา IP และ MAC

8.ARP with Multiple Networks จะใช้ Routerในการส่งข้อมูลข้ามLAN ระหว่างLAN1และLAN2โดยผ่าน Router

9.DHCP เป็นการส่งข้อมูลโดยคอมพิวเตอร์ที่ส่งจตะส่งไปให้กะuserคนอื่นๆและยังส่งไปให้กับ DHCP server โดยผ่าน Relay agent ส่งไปยัง DHCP server แล้วDHCP serverจะค้นหา IP Address แล้วส่งกลับคืนยังเครื่องผู้ส่ง

10.Router and Forwording ส่งข้อมูลโดยอารัยRouterหลายๆตัว โดยRouterจะมีIP ของเครื่องต่างในช่วงระยะที่จำกัดไว้ แล้วหาIP ระหว่างนั้นแล้วก็ส่งไปตามIPนั้นๆเป็นขั้นลำดับ


11.IP Subnets การส่งข้อมูล โดยเครื่องส่งจะส่งไปให้ยังเครื่องที่ต้องการรับโดยผ่านswicthแล้วเครื่องที่ได้รับจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องรับอีกกลุ่มหนึ่งโดยผ่านRouterไปยังเครื่องที่ต้องการส่ง


12.TCP Connections ส่งข้อมูลโดยเครื่องที่ส่งจะระบุ TCP ที่ชื่อว่าSYNพร้อมIPไปยังเครื่องServer โดยผ่านRouterต่างๆ แล้วเมื่อserverได้รับก็จะส่งTCPที่ชื่อว่าSYN+ACK พร้อมIPกลับไปยังเครื่องที่ส่งมาและเครื่องนั้นจะส่งTCP ที่ชื่อว่าACKกลับไปยังserver


13.TCP Multiplexingเครื่องที่ต้องการส่งจะต้องระบุ Destination Port(Http) และ Sort Port และต้องระบุDestination IP และ Source IP ใน TCP ในกรณีที่เป็นftp://ให้ระบุ Destination Port (ftp)และSort Port และ Destination IP และSource IPเช่นกัน แล้วจะส่งไปยังserver แล้วserver จะตรวจสอบ Http หรือ ftpแล้วก็จะส่งกลับ


14.TCP Buffering and Sequencingการส่งข้อมูลทีละน้อยโดยอาศัย Sequencing ในการส่งและรับจนกว่าจะครบตามความไวของInternet


15.User Datagram Protocol (UDP) จะต้องระบุ Distination Port(tftp)และsort port(tftp client)ในUDP Header และใส่Distination Port และSort Port ของVioce over IP ด้วยในการส่ง และทำการส่งโดยผ่านRouterหลายๆตัวและserverจะตรวจสอบ และเครื่องที่ส่งจะส่งเรื่อยๆเมื่อserverทำหยุดการทำงานข้อมูลที่ส่งไปก็จะถูกลบทิ้งและไม่สามารถจัดเก็บได้


16.IP Fragmentation เมื่อส่งจะระบุ Ident , Flag,offset โดยจะส่งไปทีละส่วน ไปยังเครื่องserverโดยMTU ต้องอยู่ระหว่าง 576 - 1500 byteนอกเหนือจากนี้จะถูกลบทิ้ง


17.Swicth Congesionแล้วจะส่งไปเป็นลำดับและระยะห่างที่เท่ากันโดยอาศัยBufferเป็นตัวแบ่งในกรณีที่ข้อมูลที่ต้องการส่งเกินBufferข้อมูลก็จะถูกทำลายทันที


18.TCP Flow Control0tใช้Bufferในการส่งโดยมีความไวระหว่าง2000 byteในการส่งและต้องส่งทีละไม่เกิน 2000 byte


19.Internet Access เมื่อผู้ใช้ใช้Internet และทำงานหลายๆอย่างพร้อมๆกัน และเมื่อเราใช้Internetในการเข้าWebsite เครื่องก็จะส่งไปยังServerของwebนั้นโดยผ่านRouterหลายตัวแล้วserverนั้นจะส่งสัญญาณกลับมายังเครื่องและจะปรากฏปัญหา หรือหน้าเว็บ


20.Email Protocols จะต้องระบุ E-mail Address ของผู้รับในการส่ง แล้วจะส่งไปยังserverแล้วserverจะส่งไปให้ผู้รับในเวลาต่อไป


21.Wireless Network and Multiple access with collision avoidance เป็นการทำงานแบบเป็นกลุ่มๆในพื้นที่ใกล้เคียงกัน


22.Virtual Private Networkเป็นการทำงานบนเครือข่ายสาธารณะ จะมีการส่งข้อมูลรูปแบบแพ็กเก็ตมาที่เครื่อข่ายInternet โดยต้องระบุรหัสข้อมูลก่อนส่ง เพื่อความปลอดภัย โดยเข้าไปในTunnelingเพื่อป้องกันการบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถอ่านข้อมูลได้ มีเพียงผู้รับเท่านั้นที่สามารถอ่านและนำไปใช้ได้

23.Public Key Encryption เป็นการเข้ารหัสข้อมูลโดยมีรหัสสองรหัสคือ Public Key และ Private Key สองรหัสจะต้องคู่กันเสมอ การเข้าข้อมูล จะนำข้อมูลดิบมาเข้ารหัสโดยใช้Public Key เป็นรหัสลับมาถอดข้อมูลและผู้รับจะใช้Private Key ถอดรหัส

24.Firewalls ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่องค์กรต่างๆมีไว้เพื่อป้องกันเครื่อข้ายคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรจากอันตรายที่มาจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายนอก จะให้เฉพาะข้อมูลที่มีลักษณะที่กำหนดไว้ที่จะสามารถเข้าออกระบบเครือข่ายได้

25.Stop and wait ARQ ผู้ส่งจะส่งข้อมูลชุดแรกไปแล้วรอผลถ้าผู้รับได้รับข้อมูลแล้วไม่ผิดพลาดจะตอบว่าACKพอได้รับคำตอบแล้วว่าถูกต้องก็จะส่งข้อมูลตัวต่อไป แต่ถ้าเจอข้อมูลที่ผิดพลาดก็จะตอบว่าACKและผู้ส่งก็ต้องส่งข้อมูลชุดเดิมไปใหม่

26.Go-Back-N ARQ จะส่งข้อมูลเป็นสุด ชุดละสามแล้วRouterจะส่งACKกลับมาแล้วให้ผู้ส่งแล้วผู้ส่งจะส่งข้อมูลชุดต่อไป เมื่อเกินTimeout ข้อมูลที่ส่งไปจะถูกทำลายเมื่อตัวแรกส่งไม่ได้ก็จะถูกทำลายทั้งชุดRouterจะแจ้งผลแล้วผู้รับก็จะส่งข้อมูลมาใหม่

27.Selective Repeat ARQ เป็นการส่งที่ละชุดโดยแต่ละชุดมี3frameโดยแต่ละframeก็จะมีเวลาของแต่ละframe ทั้งสามframeจึงไม่เท่ากัน และมีเวลาTimeoutที่ไท่เท่ากัน โดยเมื่อส่งframeแรกก็ไม่ต้องรอACKจากRouterที่ส่งกลับมาก็สามารถส่งfarmeที่สองได้เลย แต่เมื่อframeใดส่งไม่ทันเวลาหรือ Timeoutก็จะถูกทำลาย

28.The OSI Model เป็นการสื่อสารระหว่าง 2ระบบ ระบบจะเปิดการติดต่อสื่อสารในเค้าโรงสำหรับออกแบบระบบเครือข่าย จะอนะญาตให้มื่อสารข้ามุกรูปแบบของระบบคอมพิวเตอร์แยกเป็น7ชั้นแต่เกี่ยวข้องกัo

29.Peer-to-peer(P2P) Computer Network เป็นเซิร์ฟเวอร์ในเครือข่ายComputer P2P ทุกpeers เท่ากับเครื่องใช้คอมพิวเตอร์ในแต่ละหน้าที่ พร้อมกันเป็นทั้ง ลูกค้าและเซริฟเวอร์

30.Ad-Hoc Network เป็นเครือข่ายไร้สายที่ไม่ต้องการจุดเชื่อมในการจัดการ การสื่อสารระหว่าง คอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ สามารถส่งข้อมูลระหว่างคู่คอมพิวเตอร์อื่นๆคือ สามารถทำเหมือนRouterได้